ศูนย์วิชาการ แฮปปี้โฮม
รวบรวมและเผยแพร่ ข้อมูลความรู้ทางวิชาการ ที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาเด็กและวัยรุ่น
รวมถึงการรับจัดฝึกอบรม สัมมนา กิจกรรมวิชาการ นิทรรศการเผยแพร่ความรู้
เพื่อเป็นการเรียนรู้ร่วมกันระหว่าง ผู้ปกครอง นักวิชาการ และประชาชนทั่วไปที่สนใจ
![rainman](img/academy/au23-rainman.jpg)
Rain Man
จากเรนแมนสู่ออทิสติก
จากเรนแมนสู่ออทิสติก
นพ.ทวีศักดิ์ สิริรัตน์เรขา จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น
เรนแมน (Rain Man) เป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูด ที่นำเรื่องราวความมหัศจรรย์ของผู้ที่มีอาการออทิสติกมาถ่ายทอด ทำให้ผู้คนได้รู้จักกันทั่วโลกว่าออทิสติกเป็นอย่างไร สร้างจากข้อมูลจริงของบุคคลออทิสติกที่มีความสามารถพิเศษ หลาย ๆ คน มารวมอยู่ในคนเดียว นำมาถ่ายทอดบนแผ่นฟิล์มได้อย่างแนบเนียน เก็บเกี่ยวรายละเอียดต่าง ๆ ของบุคคลออทิสติกมานำเสนอ เพื่อให้โลกรู้จักพวกเขามากขึ้น แม้ว่าเวลาจะผ่านมาถึง 30 กว่าปีแล้ว สำหรับเรนแมน แต่ก็ยังอยู่ในความทรงจำของหลาย ๆ คนเป็นอย่างดี
ภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้รับรางวัลออสการ์ ในปี พ.ศ.2531 ถึง 4 ตัว คือ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม คือ แบร์รี่ เลวินสัน บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม และที่สำคัญคือ ดารานำชายยอดเยี่ยม ซึ่ง ดัชติน ฮอฟแมน สวมบทบาทบุคคลออทิสติก ได้อย่างแนบเนียน
เรื่องราวในภาพยนตร์ เริ่มต้นด้วย ชาร์ลี แบ๊บบิท (แสดงบทโดย ทอม ครูซ) ทราบข่าวการเสียชีวิตของพ่อ จึงเดินทางกลับบ้านเพื่อร่วมพิธีศพ หลังจากนั้นได้พบว่า พ่อได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินต่าง ๆ มูลค่ากว่า 3 ล้านดอลลาร์ ให้กับสถาบันแห่งหนึ่ง เหลือเพียงรถยนต์เก่า ๆ คันเดียว ที่เขาได้รับเป็นมรดก ซึ่งรถยนต์คันนี้ เป็นคันที่เขาเคยขโมยไปขับเล่นกับเพื่อนตอนอายุ 16 ปี แล้วถูกพ่อแจ้งจับข้อหาขโมยรถ ติดคุกอยู่ 2 วัน เป็นสาเหตุให้เขาโกรธแค้นพ่อ และหนีออกจากบ้านไป ไม่ยอมติดต่อกลับมาอีกเลย
ชาร์ลีรู้สึกประหลาดใจว่าทำไมมรดกกว่า 3 ล้านดอลลาร์ จึงถูกยกให้กับสถาบันแห่งหนึ่ง เขาจึงเดินทางไปค้นหาคำตอบ จนทำให้เขาทราบว่า เขายังมีพี่ชายอยู่คนหนึ่งซึ่งอยู่ในความดูแลของสถาบัน ตั้งแต่แม่ของเขาเสียชีวิต ซึ่งเขาไม่เคยรับรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย แพทย์ประจำสถาบันได้เล่าให้เขาฟังว่า พี่ชายเขาชื่อ เรย์มอน แบ๊บบิท (แสดงโดย ดัชติน ฮอฟแมน) เป็นโรคออทิสติกที่มีศักยภาพสูง อยู่ในความดูแลของสถาบันมาตั้งแต่เด็ก แต่ชาร์ลีเองก็ยังไม่เข้าใจดีว่า โรคออทิสติกคืออะไร
ชาร์ลีกำลังเดือดร้อนเรื่องเงินอยู่ เกิดความคิดไม่ดีขึ้นมาว่าถ้าเขาได้เป็นผู้ดูแลเรย์มอน เขาก็จะได้รับมรดกทั้งหมด เขาจึงเตรียมดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลเพื่อขอเป็นผู้ดูแลพี่ชาย และได้แอบพาพี่ชายออกจากสถาบันแห่งนั้น เพื่อกลับไปอยู่ด้วยที่แคลิฟอร์เนีย และเตรียมดำเนินการฟ้องร้องต่อไป
ในขณะเดินทาง เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ หลายอย่าง ทำให้ชาร์ลี ได้เรียนรู้พฤติกรรมของพี่ชายซึ่งเป็นโรคออทิสติกว่าเป็นอย่างไรบ้าง จนหลายครั้งเขาสะกดกั้นอารมณ์ไม่อยู่ แต่ในที่สุดเวลา 7 วันที่ได้อยู่ด้วยกันทำให้เขาทั้งสองเกิดความผูกพันมากขึ้น ทำให้ชาร์ลีเปลี่ยนความคิดจากเดิม เขาอยากได้มีสิทธิในการดูแลเรย์มอนด้วยความผูกพันจริง ๆ ไม่ได้สนใจในเรื่องมรดกแล้ว
ชาร์ลีได้รับรู้ว่า เรย์มอน คือพี่ชายแท้ ๆ ที่เคยอยู่กับเขาตอนเด็ก เคยช่วยเลี้ยงดูเขา จนถึงอายุ 2 ขวบ ร้องเพลงให้เขาฟัง ซึ่งยังอยู่ในความทรงจำของชาร์ลีตลอดมา แต่เขานึกอยู่เสมอว่า เป็นเพื่อนในจินตนาการที่ชื่อ เรนแมน แต่จริง ๆ แล้วคือพี่ชายเขาเอง ซึ่งเขาเรียกชื่อเพี้ยนตามภาษาของเด็กๆ จาก “เรย์มอน” เป็น “เรนแมน” สาเหตุที่พี่ชายเขาต้องไปอยู่ในความดูแลของสถาบัน เนื่องจากเกือบทำน้ำร้อนลวกเขานั่นเอง
เมื่อชาร์ลีได้รู้ความจริงว่า ที่แท้เรย์มอนคือเรนแมน ชาร์ลีรู้สึกสงสารพี่ชายมาก และเสียใจที่คิดไม่ดีต่อพี่ชาย เขาได้พาเรย์มอนมานอนบนเตียง ช่วย ถอดรองเท้าให้ และ ช่วย ห่มผ้าห่ม ปฏิบัติต่อพี่ชายเป็นอย่างดี เกิดความผูกพันกันอย่างแท้จริง จนในช่วงท้าย เรย์มอน สะกดชื่อชาร์ลี ได้ถูกต้อง เหมือนที่เคยสะกดชื่อ เวิร์น เพื่อนสนิทที่เขาจำไว้ในใจเสมอมา ว่าเป็นคนที่ดีต่อเขามาก และจากจุดนี้ภาพยนตร์ยังสื่อให้เห็นชัดเจนในสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งว่า ถึงแม้ออทิสติกจะมีปัญหาในเรื่อง การเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของผู้อื่น แต่เขาก็มีความรู้สึกนึกคิด ความต้องการ และมีความผูกพันกับคนอื่นได้เหมือนคนทั่วไป และเมื่อเกิดความผูกพันกันแล้ว ก็สามารถเรียนรู้ และเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นได้เช่นกัน
ภาพยนตร์ได้สื่อสิ่งที่เป็นอาการของออทิสติก ออกมาได้ครบถ้วน ชัดเจน โดยเฉพาะด้านพฤติกรรม ที่มักยึดติดในกิจกรรมรูปแบบเดิม ไม่มียืดหยุ่น เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เช่น เวลานอน เตียงจะต้องชิดหน้าต่าง อ่านหนังสือก่อนนอน และนอนเวลา 5 ทุ่มตรง รายการอาหารก็ต้องแบบเดิมตายตัวในแต่วันของสัปดาห์ เวลาทานแพนเค้ก ต้องมีขวดน้ำเชื่อม พร้อมกับไม้จิ้มฟันตั้งไว้ข้างๆ แม้กระทั่งกางเกงในก็ต้องเป็นแบบที่เคยใส่เป็นประจำเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงไปจากสิ่งที่เคยทำก็จะอารมณ์เสียรุนแรง มักยึดถือในกฎที่เคยถูกสอนมาอย่างตายตัว ไม่ยืดหยุ่น เช่น เวลาฝนตกห้ามออกไปไหน นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมที่มีลักษณะเฉพาะตัว ทำซ้ำ ๆ เช่น การโยกตัวเล่นทั้งเวลานั่งและยืน ชอบทำคอเอียง ๆ เหมือนกำลังฟังอะไรอยู่ในโลกส่วนตัว เดินชอยเท้าเร็ว ๆ เป็นก้าวสั้น ๆ และเอามืออุดหูเมื่อมีเสียงดัง
เวลาคุยกันจะไม่สบตา มองเอียง ๆ เฉียง ๆ มองด้วยหางตา เหมือนกำลังจดจ้องบางอย่างในระยะใกล้ ประมาณ 2-3 นิ้ว จากสายตา ไม่ค่อยแสดงสีหน้า และอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ จะมีสีหน้าเฉยตลอด บรรยายความรู้สึกไม่เป็น เช่น ฉากที่อยู่ลิฟท์ ซูซานน่า แฟนสาวของชาร์ลี จูบเรย์มอน แล้วถามว่า “รู้สึกอย่างไร” เรย์มอนก็ตอบว่า “เปียก” นอกจากนี้ยังไม่สามารถเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของคนอื่นได้ดีนัก ไม่สามารถเข้าใจมุขตลก เอามุขตลกที่ได้ฟังจากทีวีไปคิดตลอดว่าทำไม ขบปัญหาไม่แตก ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร
มีคำอุทาน หรือเสียงที่เป็นลักษณะเฉพาะ เช่น “เอ๊าะ ออ” พูดเป็นวลีสั้น ๆ ซ้ำ ๆ ใช้ระดับเสียงเดียวกันตลอด ไม่มีจังหวะสูงต่ำ แต่ในภาพยนตร์ก็ไม่ได้สื่อถึงปัญหาด้านภาษาให้เห็นเด่นชัดนัก
ในด้านความสามารถในการดูแลตนเองในกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ เรย์มอนทำได้ดี สามารถสื่อสาร และเรียนรู้สิ่งใหม่ได้ อ่านออกเขียนได้ และปรับตัวอยู่ในสังคมได้ดีพอสมควร ถือว่าเป็นกลุ่มออทิสติกที่มีศักยภาพสูง นอกจากนี้เขายังถูกสอนในเรื่องการพิทักษ์สิทธิของตนเองเป็นอย่างดี เช่นฉากที่เขาถูกชาร์ลีกระชากเสื้อ เขาก็เอาสมุดมาจดบันทึกไว้ว่า ถูกคุกคามอย่างไร โดยใคร เมื่อไหร่ เป็นต้น
แต่สิ่งที่เหนือไปกว่านั้นคือ เรย์มอนมีความสามารถพิเศษในระดับอัจฉริยะเฉพาะด้าน โดยเฉพาะด้านที่เกี่ยวกับเรื่องตัวเลข และมีความจำแบบคล้ายการภาพถ่าย เวลาเห็นหรืออ่านอะไร จะจำได้หมด คล้ายถ่ายภาพเข้าเก็บไว้ในสมองเป็นฉาก ๆ และดึงมาใช้ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งพบว่าบุคคลออทิสติก ประมาณร้อยละ 10 มีความสามารถพิเศษคล้ายแบบนี้ แต่จะมีความหลากหลายเฉพาะทางในแต่ละคน อาจเป็นความสามารถพิเศษในด้านการคำนวณทางคณิตศาสตร์ ด้านความจำที่จำรายละเอียดได้ทุกอย่าง ด้านศิลปะ หรือดนตรี เรียกกลุ่มที่มีความสามารถพิเศษเหล่านี้ว่า “ออทิสติก ซาวองก์” (Autistic Savant)
ภาพยนตร์ได้สื่อถึงความสามารถพิเศษต่าง ๆ ออกมาได้ชัดเจนมาก จากหลายฉาก เช่น เรย์มอน ทำกล่องไม้จิ้มฟันหล่น มองแว๊บเดียวก็รู้ว่าหล่นไป 246 อัน ซึ่งถูกต้องพอดี ไม่มีขาดไม่มีเกิน สามารถคูณเลขหลายหลักได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง สามารถจดจำรายละเอียดของเครื่องบินตกได้ทุกลำว่าเป็นของสายการบินไหน ตกปีไหน เสียชีวิตเท่าไหร่ จนเป็นสาเหตุให้เรย์มอนไม่กล้าขึ้นเครื่องบิน ทำให้ชาร์ลีต้องพาเดินทางโดยรถยนต์แทน และสามารถจำหมายเลขโทรศัพท์ได้ทั้งหมดจากการอ่านสมุดโทรศัพท์เพียงครั้งเดียว พอเห็นชื่อพนักงานโรงแรมก็บอกได้ว่าเบอร์โทรศัพท์อะไร
ฉากเด่นของภาพยนตร์อีกฉาก คือ ชาร์ลี พาเรย์มอน ไปเล่นการพนันที่นครลาสเวกัส เรย์มอนจำไพ่ได้แม่นยำ ทำให้ชนะพนันมาประมาณ 8 หมื่นดอลลาร์ จนเจ้าของบ่อนต้องใช้กล้องวงจรปิดจับผิดดูว่ามีกลโกงอะไร แต่ก็ไม่พบและประหลาดใจมาก ว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ที่คนจะมีความสามารถการจำไพ่ได้ถึง 6 สำรับ ในที่สุดก็ไม่ยอมให้เล่นพนันต่อไป บังคับให้กลับ ซึ่งฉากนี้มาจากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริงที่นครลาสเวกัส และเป็นเหตุผลที่อธิบายว่า ทำไมการจัดประชุมออทิสติกระดับนานาชาติ เคยไปจัดที่นครลาสเวกัส
ในตอนจบ เรย์มอนต้องกลับไปอยู่ในความดูแลของสถาบันต่อไป ตามที่จิตแพทย์ 2 ท่านได้ลงความเห็น (ตามกฏหมายสุขภาพจิตของสหรัฐอเมริกา การตัดสินใจให้บุคคลที่มีปัญหาทางสุขภาพจิตอยู่ในความดูแลของใคร ต้องมีจิตแพทย์อย่างน้อย 2 ท่าน ประเมินและลงความเห็นตรงกัน)
ภาพยนตร์ ได้สะท้อนมุมมองและแนวคิดด้านสุขภาพจิต ในสมัยเมื่อ 3-4 ทศวรรษก่อน ที่เชื่อว่า การดูแลโดยสถาบันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ที่จะทำให้ผู้มีปัญหาด้านสุขภาพจิต ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ได้เรียนหนังสือในโรงเรียนพิเศษเฉพาะทาง ได้ทำงานโรงงานในอารักษ์ ภายใต้การดูแลของสถาบันทั้งหมด แต่ในปัจจุบัน แนวคิดเหล่านี้ได้เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แนวคิดการฟื้นฟูสมรรถภาพโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน (Community-based Rehabilitation) เป็นคำตอบที่เริ่มได้รับการยอมรับในวงกว้างขึ้น การคืนบุคคลเหล่านี้ให้กับครอบครัวและชุมชน เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพน่าจะเหมาะสมที่สุด ที่จะทำให้เขาสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ สามารถพึ่งตนเองได้อย่างแท้จริง (Independent Living) โดยความเกื้อกูลของชุมชนและสังคม ภายใต้แนวคิดการฟื้นฟูสมรรถภาพ ไม่ใช่การสงสารหรือสงเคราะห์ คาดว่าถ้าภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ถูกนำมาสร้างใหม่ คงจะมีตอนจบที่เปลี่ยนแปลงไป ตามแนวคิดในปัจจุบัน
30 กว่าปีก่อน เป็นช่วงที่ชาวอเมริกันเริ่มรู้จักโรคออทิสติกพร้อมกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ในภาพยนตร์ก็สะท้อนได้ชัดเจนว่ายังไม่ค่อยรู้จักกันเลย ชาร์ลียังบอกหมอที่ดูแลเลยว่าขอให้ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ๆ ได้ไหม เพราะไม่รู้จักออทิสติก บุคลากรสาธารณสุขก็ยังไม่รู้จักเหมือนกัน ยังสงสัยและตื่นเต้นกับความสามารถพิเศษ จะเห็นได้ชัดจากฉากในภาพยนตร์ ตอนที่ชาร์ลีพาเรย์มอนไปพบแพทย์
เมื่อย้อนมองจากภาพยนตร์ จะคล้ายกับสถานการณ์ของเมืองไทยไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ ที่มีคำถามมากมายเกี่ยวกับออทิสติก แต่ในปัจจุบัน พวกเขาสามารถเรียนรวมอยู่ในโรงเรียนปกติทั่วไป เรียนในมหาวิทยาลัยได้เหมือนกัน สามารถทำงานร่วมกับพวกเราตามความสามารถที่เขามี พวกเขาบางคนก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่น เพื่อนร่วมงาน และเพื่อนร่วมสังคม กลายเป็นพวกเดียวกัน ไม่มีการแบ่งแยก พวกเขา พวกเรา
![rainman](img/academy/savant/Dustin-Hoffman.jpg)
ดัชติน ฮอฟแมน ผู้สวมบทบาทเป็น เรย์มอน แบ๊บบิท
![rainman](img/academy/savant/Kim-Peek.jpg)
คิมพีค (Kim Peek) ต้นแบบเรนแมนตัวจริง
บุคคลออทิสติก ที่มีความสามารถพิเศษ ผู้ซึ่งมีความรู้ในศาสตร์แขนงต่างๆ มากมาย
![rainman](img/academy/savant/rainman.jpg)
บทความทั้งหมดยินดีให้นำไป เผยแพร่เพื่อความรู้ได้ โดยกรุณาอ้างอิงแหล่งที่มา
ทวีศักดิ์ สิริรัตน์เรขา. (2564). Rain Man จากเรนแมนสู่ออทิสติก. จาก https://www.happyhomeclinic.com/au23-rainman.htm
(บทความต้นฉบับ: เมษายน 2549)
![นพ.ทวีศักดิ์ สิริรัตน์เรขา นพ.ทวีศักดิ์ สิริรัตน์เรขา](img/logo-thaweesak.jpg)
นพ.ทวีศักดิ์ สิริรัตน์เรขา
จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น
การศึกษา
· แพทยศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
· วุฒิบัตรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สาขาจิตเวชศาสตร์เด็กและวัยรุ่น (จุฬาฯ)
ศูนย์วิชาการ
ออทิสติก
ออทิสติก
ศูนย์วิชาการ
ออทิสติก
![แนวทางการดูแลออทิสติกแบบบูรณาการ](img/academy/autistic-care.jpg)
![อัจฉริยะกับออทิสติก](img/academy/autistic-savant.jpg)
ศูนย์วิชาการ ออทิสติก
Autistic Academy
รวบรวมความรู้ที่เป็นปัจจุบัน เกี่ยวกับออทิสติก (Autism Spectrum Disorder) ในแง่มุมต่างๆ แนวทางการดูแลรักษาแบบบูรณาการ รวมถึงออทิสติกที่มีความสามารถพิเศษ
· ออทิสติก - Autism Spectrum Disorder
· ออทิสติก 10 คำถาม
· ออทิสติกแท้ ออทิสติกเทียม
· ออทิสติก พบได้มากแค่ไหน
· ออทิสติก เกิดจากอะไร
· ออทิสติก ป้องกันได้ไหม
· ออทิสติก โตแล้วเป็นอย่างไร
· เรียนรู้และเข้าใจเด็กออทิสติก
· พฤติกรรมแปลกๆของเด็กออทิสติก
· การเลี้ยงดูเด็กออทิสติก
· เมื่อเด็กออทิสติกถึงวัยเรียน
· เด็กออทิสติกกับการเล่นสมมติ
· พฤติกรรมการเล่นในเด็กออทิสติก
· แนวทางส่งเสริมการเล่นในเด็กออทิสติก
· แนวทางการดูแลออทิสติกแบบบูรณาการ
· การส่งเสริมพลังครอบครัว ในออทิสติก
· การส่งเสริมความสามารถ ในออทิสติก
· การส่งเสริมพัฒนาการ ในออทิสติก
· การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ในออทิสติก
· กิจกรรมบำบัด ในออทิสติก
· แก้ไขการพูด ในออทิสติก
· การฝึกทักษะสังคม ในออทิสติก
· การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการศึกษา ในออทิสติก
· การฟื้นฟูสมรรถภาพทางอาชีพ ในออทิสติก
· การรักษาด้วยยา ในออทิสติก
· การบำบัดทางเลือก ในออทิสติก
· อัจฉริยะกับออทิสติก
· ซาวองต์ ซินโดรม
· ออทิสติก ซาวองต์
· ระดับความสามารถของอัจฉริยะออทิสติก
· รูปแบบการคิดของอัจฉริยะออทิสติก
· แนวทางการพัฒนาอัจฉริยะออทิสติก
· รหัสพันธุกรรมของอัจฉริยะออทิสติก
· การประเมิน อัจฉริยะออทิสติก
· Rain Man จากเรนแมน สู่ออทิสติก
· Good Doctor หมออัจฉริยะ ออทิสติก
· Move to Heaven สู่ความเข้าใจแอสเพอร์เกอร์
· Attorney Woo ทนายอัจฉริยะ ออทิสติก
· อัจฉริยะออทิสติก: คิม พีค
· อัจฉริยะออทิสติก: เทมเพิล แกรนดิน
· อัจฉริยะออทิสติก: สตีเฟน วิลท์เชียร์
· อัจฉริยะออทิสติก: แดเนียล แทมเมต
· แอสเพอร์เกอร์
· เมื่อลูกเป็นแอสเพอร์เกอร์ ซินโดรม
· พีดีดี เอ็นโอเอส
· ลิงก็เป็นออทิสติกได้
· หมาก็เป็นออทิสติกได้
· วันตระหนักรู้ออทิสติกโลก
ศูนย์วิชาการ ออทิสติก
คลิกเลือกเรื่องที่สนใจ
คลิกเลือกเรื่องที่สนใจ
คลิกเลือกเรื่องที่สนใจ